WTA ประกาศ งดแข่งขันเทนนิสหญิงที่ จีน จากกรณี ‘เผิง ฉ่วย’

WTA ประกาศ งดแข่งขันเทนนิสหญิงที่ จีน จากกรณี ‘เผิง ฉ่วย’

WTA เอาจริงประกาศ งดแข่งเทนนิสหญิงที่ จีน หลังนิ่งเฉยกรณี เผิง ฉ่วย ที่ออกมากล่าวหาว่า จาง เกาลี่ บังคับร่วมหลับนอนนานสิบปี เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า สมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง หรือ WTA ประกาศระงับ การแข่งขันในประเทศจีนทั้งหมด โดยมีผลทันที เพื่อเป็นการตอบโต้ที่รัฐบาลจีนนิ่งเฉยต่อข้อกล่าวหาของ เผิง ฉ่วย นักเทนนิสหญิงชาวจีนอดีตมือวางอันดับหนึ่งของโลก ออกมาแฉว่า จาง เกาลี่ อดีตรองนายกฯจีนล่วงละเมิดทางเพศ บังคับร่วมหลับนอนนานสิบปี

โดยนาย สตีฟ ไซม่อน ประธานของสมาคมนักเทนนิสอาชีพหญิง 

ได้ออกมาระบุว่าการกระทำของทางการจีนเป็นสิ่งที่รับไม่ได้ หลังจากที่ทางการจีนเลือกจะเซนเซอร์ข้อกล่าวหาของเผิ่ง ฉ่วย พร้อมไม่สนใจข้อเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างโปร่งใส

ซึ่งนายไซม่อนระบุอีกว่า เขาไม่สามารถขอให้นักกีฬาของเขาลงแข่งในประเทศจีนได้ เนื่องจาก เผิง ฉ่วย ไม่ได้รับอนุญาตให้สื่อสารอย่างอิสระ ซึ่งจากเหตุการณ์ทั้งหมดทำให้เขาเป็นห่วงถึงความปลอดภัยของนักกีฬาและทีมงาน หากทาง WTA เลือกจัดการแข่งขันที่จีน

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ เผิง ฉ่วย ได้ออกมาโพสต์ข้อความกล่าวหา จาง เกาลี่ อดีตรองนายกรัฐมนตรีจีน ผ่านเว็บไซต์เว่ยป๋อ สื่อสังคมออนไลน์ขนาดใหญ่ในประเทศจีน ว่าอดีตรองนายกฯได้ล่วงละเมิดทางเพศเธอ และหลับนอนกับเธอกับร่วมสิบปี

โดยข้อความในโพสต์เล่าว่าในวันเกษียณอายุของ จาง เกาลี่ เขาได้ชวนเธอไปร่วมรับประทานอาหารอดีตรองนายกฯและภรรยา ก่อนที่นาย จาง เกาลี่ จะกดดันให้นักเทนนิสสาว ร่วมหลับนอนด้วย ซึ่งเธอเล่าว่าบ่ายวันเกิดเหตุเธอได้แต่ร้องไห้และปฏิเสธ จาง เกาลี่ อย่างไรก็ตามเธอยอมรับในภายหลังว่าเธอกับนายจาง เกาลี่ เริ่มความสัมพันธ์แบบลับๆกัน

ทั้งนี้หลังจากที่เธอได้ออกมาเปิดโปงเรื่องฉาวนี้เธอก็หายตัวไปจากสาธารณะ อย่างไรก็ตาม นาย โธมัส บาค ประธานคณะกรรมการโอลิมปิกสากล หรือ IOC ได้ออกมาแถลงว่าตนได้พูดคุย เผิ่ง ฉ่วย และระบุว่าเธอปลอดภัยดี

นายชุกเซย์ให้สัมภาษณ์ว่าเขาเคยพูดเล่นๆว่า หากวันใดภรรยาเสียชีวิต เขาจะสร้างทัชามาฮาลให้ ซึ่งภรรยาก็ได้ตอบกลับมาว่าเธอไม่มีวันตาย ทำให้มหาเศรษฐีคนดังกล่าวจะสร้างทัชมาฮาลให้เธอตอนที่เธอยังมีชีวิตแทน

ทั้งนี้ภรรยาของเขามีคำขอเดียวคือมีห้องนั่งทำสมาธิที่ดี ส่วนที่เหลือนั้นภรรยาของเขายอมรับของขวัญจากสามีเสมอ ไม่ว่าจะเป็นทัชมาฮาล หรือไม่ก็ตาม โดยทัชมาฮาลจำลองนี้จะเปิดให้ประชาชนทั่วไปเยี่ยมชมในช่วงชั่วโมงเวลาเรียน

สหรัฐฯ เผยพบ โอไมครอน แล้วหนึ่งราย พบฉีดวัคซีนครบแล้ว

หมอใหญ่ของ สหรัฐฯ ได้ออกมาแจ้งข่าวว่าตอนนี้พบผู้ป่วย โอไมครอน แล้วหนึ่งราย เบื้องต้นอาการไม่รุนแรง พบฉีดวัคซีนครบแล้ว เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม สำนักข่าว CNN รายงานว่า นาย แอนโธนี เฟาซี อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อในสหรัฐฯ ได้ออกมายืนยันว่าพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนรายแรก โดยผู้ป่วยดังกล่าวมีประวัติเดินทางจากแอฟริกาใต้ในช่วงวันที่ 22 พฤศจิกายน ซึ่งเป็นช่วงที่อเมริกาใช้มาตรการสกัดโควิดโอไมครอน

โดยผู้ป่วยถูกพบว่าติดเชื้อในวันที่ 29 พฤศจิกายน และในขณะนี้อยู่ในระหว่างการกักตัว เบื้องต้นบุคคลใกล้ชิดไม่พบว่าป่วยเป็นโควิดแต่อย่างใด ซึ่งจากการตรวจประวัติผู้ป่วยพบว่าผู้ป่วยคนดังกล่าวได้รับวัคซีนครบสองโดสแล้ว แต่ยังไม่ได้รับวัคซีนกระตุ้น

ก่อนหน้านี้ ประเทศแคนาดา เพื่อนบ้านของสหรัฐฯ ประกาศว่าพบผู้ป่วยโควิดโอไมครอนแล้วสามราย โดยสองรายแรกพบว่าเป็นผู้ป่วยที่เพิ่งมีประวัติเดินทางมาจากประเทศไนจีเรีย ขณะที่ผู้ป่วยรายที่สามเพิ่งถูกพบเมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา

ซึ่ง นาย โจ ไบเดน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ได้ออกมาประกาศว่าในขณะนี้ยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้มาตรการล็อกดาวน์ หลังจากที่เกิดการแพร่ระบาดของโควิดกลายพันธุ์สายพันธุ์โอไมครอน พร้อมระบุว่าไม่มีความจำเป็นหากประชาชนชาวอเมริกันฉีดวัคซีนป้องกันโควิดและสวมหน้ากากอนามัย

นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น เผยอาจปรับ นโยบายเข้าญี่ปุ่น สำหรับประชาชนและชาวต่างชาติที่พำนักในญี่ปุ่น รับสร้างความสับสนให้ ปชช.

เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม สำนักข่าว เกียวโด รายงานว่า นาย ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมายอมรับว่านกฎการเข้าประเทศสำหรับประชาชนที่พำนักในญี่ปุ่น สร้างความสับสนให้กับประชาชนและชาวต่างชาติ พร้อมระบุว่าพวกเขาจะพิจารณาถึงนโยบายนี้อีกครั้ง ขณะเดียวกันทางสายการบิน ANA และ JAL ที่ก่อนหน้านี้ปิดรับการจองเที่ยวบินขาเข้าญี่ปุ่นชั่วคราว ได้กลับมาเปิดให้นักท่องเที่ยวสามารถกลับมาจองเที่ยวบินได้แล้วอีกครั้ง

ก่อนหน้านี้ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นได้ออกมาประกาศว่าประเทศญี่ปุ่นเตรียมจะกลับมาปิดประเทศอีกครั้งในวันอังคารนี้ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิดโอไมครอนที่กำลังเป็นที่จับตามองอยู่ในขณะนี้

โดยนายคิชิดะระบุว่าพวกเขาเลือกจะใช้มาตรการดังกล่าว เพื่อป้องกันไม่ให้ประเทศต้องเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายที่สุด ทั้งนี้มาตรการดังกล่าวอาจเป็นมาตรการเพียงชั่วคราว จนกว่าข้อมูลเกี่ยวกับโควิดโอไมครอนจะมีมากขึ้น ก่อนหน้านี้ทางการญี่ปุ่นได้สั่งห้ามไม่ให้ผู้ที่มีประวัติเดินทางจาก 9 ประเทศในทวีปแอฟริกาแล้ว

Credit : แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว | แต่งบ้านและสวน | พระเครื่อง | รีวิวกล้องถ่ายรูป